ดูหนัง เล่าของ ดินแดนนี ทราบค (เบน แอฟเฟล็ก – Ben Affleck) ข้าราชการสอบปากคำที่ทุกข์ระทมแสนสาหัสกับการล่องหนไปของบุตรสาว จะต้องมาพันพัวกับแผนชิงทรัพย์สุดแปลกเมื่อคนที่ไม่รู้จัก 4 คนเปลี่ยนเป็นผู้สบคบคิดการปล้นร่วมกับ เดลเรย์น (วิลเลียม ฟิตช์เนอร์ – William Fichtner) ผู้จัดการทีมการปล้นที่สะกดจิตสั่งการพวกเขา แม้กระนั้นแล้วเขาก็จำเป็นต้องงงงวยเมื่อกล่องนิรภัยที่เป็นจุดมุ่งหมายของเดลเรย์น
งานนี้ ดินแดนนี่จะต้องร่วมมือกับอลิซ (ไดอานา คุณครูซ – Diana Cruz) แม่แพทย์ซึ่งสามารถสะกดจิตผู้คนได้ พวกเขาจำเป็นต้องร่วมมือกันหยุดเดลเรย์น รวมทั้งหาทางล้างมลทินให้ตนเองในเหตุการสังหารที่พวกเขามิได้ก่อ รวมทั้งหาคำตอบว่ากลยุทธ์ของเดลเรย์น ตามที่เป็นจริงแล้วเกี่ยวเนื่องกับบุตรสาวของทราบคอย่างไร เปลี่ยนไปเป็นภาพถ่ายของบุตรสาวที่ถูกลักพาตัวไป
และแล้ว 15 ปีก็สร้างผ่านไป จุนได้แปลงเป็น คิมซูฮยอก ผู้ชายธรรมดาบ้านๆคนหนึ่งที่ปราศจากความเป็นมาเดิมประจำตัว พ่อบ้านของครอบครัวเล็กๆภรรยาเป็น มีนา (สวมบทโดย ฮวังอูซึลฮเย) ครูสอนวาดรูปในสถานที่เรียน และก็มีลูกสาววัยพรีทีนชื่อ กายอง (สวมบทโดย อีจีวอน)แน่นอนว่าอาชีพของเขาเป็น วาดเว็บตูนส่งสถานที่พิมพ์ แต่งานของเขาไม่รุ่งอย่างที่คาดหวัง
พากเพียรยังไงก็ไม่ได้รับความนิยมเลย มีหากแม้คำติชมว่าน่าเบื่อเฮงซวย จนตราบเท่าหัวหน้าบก.จำเป็นจะต้องสั่งให้ตัดจบเรื่องระหว่างทาง ก่อนจะโดนยำเหลวเทียวไปเทียวมากกว่านี้ เห็นแววว่าจุนกำลังจะจำเป็นต้องว่างงานเร็วนี้ๆเอามาสู่หัวใจของหนังเรื่องนี้ที่จะสะท้อนให้มีความคิดเห็นว่า การร่วมเชื้อสาย เป็นการชี้ความเป็นครอบครัวในทางกายภาพ แม้ว่าความรักความเอื้ออาทรต่อกัน
ก็สามารถสร้างให้เป็นครอบครัวได้ด้วยเหมือนกัน ก็เลยอาจโหยกเหยกคำกล่าวที่ว่าเลือดข้นกว่าน้ำ เนื่องมาจากความรักความเกี่ยวข้องของพี่เซฮาและน้องทงกูนั้นแยกกันไม่ออก ตัดกันไม่ขาด เป็น Inseparable Bros ถึงแม้ว่าไม่ใช่สายเลือดเดียวกันความสะดุดตาที่ควรต้องยกย่องอีกเรื่องเป็น นักแสดงหลักทั้งคู่แสดงล้ำหน้า เนียนสมจริงสมจังเยอะมาก
อีกวังซูถ่ายทอดความเอ๋อได้น่ารักน่าชัง น่ารักน่าชัง หรือแม้แต่บทเครียด ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ หรือบทเศร้าใจที่ชักชวนเห็นใจสุดๆส่วนคุ้นชินฮาคยุยงน ประเด็นนี้ดูผิวเผินจะมีความรู้สึกว่าเล่นง่าย นั่งเฉยๆแต่จริงแล้ว เป็นยากเยอะแยะ เพราะเขาแสดงออกได้เพียงทางท่าทางแววตาเท่านั้น ซึ่งก็ทำเป็นดีงามเลยละ ดดยรวม จัดว่าเป็นหนังดี หนังรื้นเริง มีคุณค่าแก่การดูจ้ะ
ดูหนัง รีวิว ภาพยนตร์ใหม่ของ ซงจีฮโย เปิดตัวสร้างสถิติยอดผู้ชมวันแรก
ผลงานภาพยนตร์เรื่องใหม่ของ ซงจีฮโย เปิดตัววันแรกได้อย่างน่าสังเกต สร้างสถิติยอดผู้เข้าชมในโรงภาพยนต์วันแรกสูงสุด ท่ามกลางเหตุการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในประเทศประเทศเกาหลีใต้ ในมิ.ย. ดูหนัง เป็นเดือนที่มีภาพยนตร์ประเทศเกาหลีจำนวนหลายเรื่องจ่อคิวกลับเข้าฉายในโรงภาพยนต์ภายหลังที่เลื่อนกำหนดฉายก่อนหน้านี้ เพราะเหตุว่าเหตุ COVID-19 ซึ่ง ‘Intruder’
อ้างอิงข้อมูลจาก สมาพันธ์รัฐภาพยนตร์ประเทศเกาหลี (The Korean Film Council) ได้ประกาศว่า Intruder ที่เข้าฉายช่วงวันที่ 4 มิถานายน มียอดผู้เข้าชมในโรงภาพยนต์ จำนวน 49,578 คน ในวันแรกของการเข้าฉาย (บันทึกสถิติจำนวนผู้เข้าชมปัจจุบันนี้ ช่วงวันที่ 5 มิถานายน เวลา 8.29 น. มีจำนวนผู้เข้าชมสะสมอยู่ที่ 50,411 คน)
เรื่องของการเปิดประตูนี่ซีรีส์เขาบอกเป็นปรัชญาเอาไว้จ้ะ ว่าประตูเปรียบเทียบป้อมกันโลกสองฝั่ง ที่โลกภายในประตูไม่เหมือนกันกับโลกด้านนอกประตูอย่างสิ้นเชิง ซึ่งถ้าว่าเราเปิดประตูรับ เท่าๆกับเราอนุญาตให้สิ่งใดก็ตามเข้ามาคุกคามชีวิตเราได้ ด้วยเหตุดังกล่าวก่อนเปิดประตูรับอะไรเข้ามา ให้พินิจให้ดีก่อนว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ดีกับชีวิต หรือเป็นสิ่งที่จะทำให้ชีวิตเราตรากตรำ เรียกว่าเป็นซีรีส์สยองขวัญที่แอบใส่ปรัชญาชีวิตเอาไว้แบบเนียนๆ
“เพราะคนยอดเยี่ยมสุดไม่เคยอยู่นิ่ง” World’s Best เกิดเหตุราวของ เปรม เด็กชายวัย 12 ปี ที่กำลังก้าวเข้าสู่ชีวิตวัยรุ่น ถึงแม้ว่าความจำนงของแม่ต้องการจะให้เขาเก่งแล้วก็เป็นอัจฉริยะด้านเลข ระหว่างที่เขาติดอยู่ในความสับสนที่ค้นหาตัวเอง เขาพบว่าพ่อที่จากไปตั้งแต่เด็กๆเป็นแร็ปเปอร์ใต้ดินมีชื่อ ทำให้เขาตกลงปลงใจทดสอบสืบต่อสิ่งที่พ่อทิ้งเอาไว้ให้ ด้วยการซึมดูดซับจากจินตนาการของตนที่ได้ร่วมโชว์เพลงแร็ปกับพ่อบนเวที
หนังหัวข้อนี้ถือว่าเป็นการผนึกกำลังของนักสร้างหนังเก่งมารวมตัวกัน ไม่ว่าจะเป็น “โทมัส ไคล์” โปรดิวเซอร์มือทองที่เคยทำให้ Hamilton เป็นมิวสิคัลที่ปังระดับโลกมาแล้ว พร้อมกับได้ “โรเฉียง เสธิ” มานั่งเก้าอี้เป็นผู้กำกับ และก็ยังมีนักแสดงผู้ชาย “อัตการ์ช อัมบุดการ์” มาช่วยปั้นบทหนังเรื่องนี้ พ่วงกับร่วมแสดงนำในหนังเรื่องนี้ด้วย
รีวิว Hipnotic
โรเบิร์ต โรดริเกซ (Robert Rodriguez) อาจไม่ใช่ผู้กำกับที่ดังมากเท่าไรนักถึงแม้ชื่อหนังอย่าง ‘Desperado’ หรือ ‘Spy Kid’ จะพอเพียงติดตรงซอกหูคอหนังยุค 90-2000 อยู่บ้าง หรือแม้แต่ ‘Alita : Battle Angel’ งานหนังไซไฟฟอร์มดีที่ผู้คนจำนวนมากเชียร์ให้มีภาคต่อก็ยังไม่อาจส่งให้ชื่อของโรดริเกซติดอันดับผู้กำกับที่ยุคเท่าไรนัก มีก็แค่เครดิตร่วมควบคุมซีรีส์อย่าง ‘The Mandalorian’ ซีซัน 3 ที่เพียงพอจะทำให้เห็นความรู้ความเข้าใจสุดเก๋าของเขาอยู่บ้าง
ซึ่งนับว่าน่าแปลกไม่น้อยที่ผู้กำกับสายแอ็กชันแฟนตาซีอย่างเขาหันมาจับจับหนังทริลเลอร์ที่มีไอเดียสุดขีดอย่าง ‘Hipnotic’ จับเอาการการสะกดจิตมาผูกโยงกับเรื่องจารกรรม รวมถึงการล่อหลอกงทีไปของลูกผู้หญิงผู้แสดงนำชายพร้อมจุดหักมุมที่ซึ่งพูดได้ว่าเกินผู้ใดกันแน่จะคาดหมายมาเป็นหนังที่เขาจะกลับสู่ฮอลลีวูดอีกครั้งของโรดริเกซ
เราสามารถทำนายใจได้เลยว่ารอมคอมแนวนี้จะเดินเรื่องไปทางไหน เรียกว่าไม่ต้องลากผู้ชมก็สามารถเดินตามไปได้แบบไม่หลงด้าน แถมเผลอๆยังบางครั้งก็อาจจะเดินนำนักแสดงซะด้วย แต่ทุกคนก็พร้อมที่จะรอดูฉากนั้น ฉากนู่น ฉากนี้ที่มีความคิดว่าจะมี ที่มีความรู้สึกว่าจะเกิดขึ้นในเรื่องด้วยความเต็มใจ ซึ่งพล็อตแบบนี้เป็นพล็อตที่รับรองได้เลยว่า ถ้าหากบทดี ดำเนินเรื่องกระชับแล้วก็ได้พระนางที่เคมีเยี่ยมที่สุด
ประกันว่าแววปังดังไกลมาตั้งแต่ยังไม่เริ่มจุดพลุกันเลย ดูหนัง รับรองได้จากรุ่นพี่ที่ดังเปรี้ยงมาแล้วอย่าง ‘Whats Wrong with Secretary Kim?’, ‘business proposal’ อื่นๆอีกมากมาย แล้วหลังจากนั้นก็นำไปสู่การค้นหาว่าโลกฮิปฮอปแท้จริงจริงนั้นเป็นอย่างไรภาพยนตร์เรื่องใหม่ของนักแสดงสาว ซงจีฮโย ก็เป็นเยี่ยมในภาพยนตร์ประเทศเกาหลีที่เปิดตัวการเข้าฉายในเดือนนี้อย่างเดียวกัน
เรื่องราวเกิดขึ้นที่เมืองพยองแท็ค จังหวัดคยองกี ทางภาคใต้ของประเทศเกาหลี ซึ่งกำลังมีรายงานข้อมูลการเสียชีวิตของสองคดี หนึ่งเป็นคดีความปัญหาถูกฆ่าหั่นศพ แล้วก็อีกหนึ่งเป็นอุบัติเหตุชายหนุ่มถูกรถยนต์ขยะชนตายคาที่ ในขณะเดียวกัน ศิลปินต่างชุดก็จะถูกทยอยเล่าเรียงออกมากำลังเริ่มออกอาการอัลไซเมอร์ ก็เลยมักก่อปัญหาราวยากลำบากให้ยองชอนลูกสะใภ้ต้องรอคอยตามจัดแจงให้อย่างไม่บอก
ชุดแรก : จุงมัน (รับบทบาทโดย กางซองอู) เป็นลูกจ้างใช้แรงงานของโรงอาบน้ำในเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์พยองแท็ค เป็นคนจิตใจดีขยันขันแข็ง แม้นายจ้างจะสุดเขี้ยว เขามีภรรยาชื่อ ยองชอน (สวมบทโดย จินคยอง) จัดการเป็นเจ้าหน้าที่ชำระล้างที่สถานีรถไฟ รวมทั้งมีลูกสาววัยรุ่นหนึ่งคน ส่งไปเรียนที่โซล จุงมันแล้วก็ภรรยาจำเป็นต้องมาอาศัยอยู่กับแม่ ซุนจา (แสดงบทบาทโดย ยุยงนยอจอง) ที่
ปัญหาด้านการเงินของจุงมันคือเขาเคยมีร้านขายของเป็นของตัวเอง เป็นมรดกที่พ่อสร้างไว้ให้ แม้กระนั้นเพราะเขาบริหารเจ๊ง ชีวิตเลยเสื่อมโทรม ต้องมาดำเนินงานเป็นลูกจ้างชนชั้นแรงงาน หนำซ้ำปัจจุบันนี้ การเรียนรู้ของลูกสาวก็กำลังจะสะดุดเนื่องจากว่าเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาเล่าเรียนไม่ได้รับอนุมัติคุณบอกให้ทดสอบเขียนสิ่งที่เป็นตัวเองสิ ตามที่คุณชื่นชอบการแร็ป
รีวิวภาพยนตร์ Cheer Up Mr. Lee (2019)
เวลานี้แลเห็น ชาซึงวอน ออกรายการวาไรตี้อาทิตย์ละตอน เลยทำให้อยากได้แนะนำหนังของชาซึงวอนสักเรื่องให้ดูอิ่มจุใจหน่อย เอาที่ยังใหม่ มองดูครึกครื้นเพลิดเพลินใจๆเบาๆแต่มีเนื้อเป็นประโยชน์บ้าง ก็เลยนึกถึงเรื่องนี้เลย Cheer Up Mr. Lee คุณผู้ชมจะได้พบกับชาซึงวอนในอีกคาแรคเตอร์ ที่จะสะกดสายตาให้ปรารถนาติดตามเรื่องราวของเขา ออกสีมีรสอย่างกลมกล่อมละมุนละไม ว่าตามสูตรเฉพาะตัวของงานประเทศเกาหลี
เรียกเสียงหัวเราะได้ฮาๆจู่ๆเผลอโดนหยอดดรามารีดน้ำตาไปแบบไม่ทันตั้งตัว แล้วก็พร้อมเหลียวกัดเปลี่ยนเป็นความสบายอบอุ่นหัวใจกับเรื่องราวที่คลี่คลายได้ แต่ถึงจะคลุกคลีดูหนังสูตรนี้มาชั่วชีวิต เราๆก็ยังสามารถมองดูได้บ่อยอย่างไม่มีเบื่อ เนื่องจากว่าเนื้อหาแต่ละพลอตที่เอามาเล่น มักมีอะไรที่ต่างกันน่าสนใจอยู่ในตัวรายละเอียดของหนังเสมอหรือหนีเอาชีวิตรอดคนเดียวก็มี หากแม้ที่แน่ๆมาดงซอก เล่นบทนี้ได้ฮามากๆจ้ะ
World’s Best ก็อาจจะมีเทมเพลตสูตรสำเร็จสไตล์หนังดิสนีย์ปกติ ที่ไม่ค่อยมีอะไรแปลกใหม่และหวือหวาสักเท่าไหร่ หากแม้แปลงเป็นว่าความฟีลกู้ดแทรกซึมไปสู่ข้อความสำคัญครอบครัวและการก้าวผ่านผ่านวัยในหนังประเด็นนี้เป็นองค์ประกอบที่ช่วยประคองตัวเอาไว้ได้อย่างน่าสนใจไม่น้อย เนื่องจากว่าอย่างที่เกริ่นไปแล้วว่า เลข กับ แร็ปเปอร์ คือปัญหาที่ท้าทายสำหรับเพื่อการจะจับมาเชื่อมกัน
จังหวะของหนังบางครั้งก็อาจจะไม่ได้ตื่นเต้นอะไร แต่ก็บางทีอาจจะการสร้างอารมณ์เบิกบานๆก้าวหน้าตลอดทั้งเรื่อง แทรกมาด้วยท่วงทำนองมิวสิคัลที่เอามาประกอบตลอดทั้งเรื่อง ที่จำต้องเห็นด้วยว่าองค์ประกอบนี้ของหนังทำออกมารุ่งเรืองน่าพอใจอย่างยิ่งจริงๆเห็นได้ชัดว่าได้กลิ่นอายความเป็นมืออาชีพระดับบอร์ดเวย์มาช่วยอย่างแท้จริง และเพลงส่วนมากเป็นเพลงแร็ป ก็แต่งใหม่และจากนั้นก็ใส่เนื้อหาเข้ามาได้อย่างชนดวงใจพอใช้
เมื่องานไม่ดี เงินก็ไม่มี ก็ไม่แตกต่างจากภาวการณ์สาวใช้การมิได้ ให้ภรรยาบ่นว่าจ้ำจี้จ้ำไชได้ทุกเมื่อเชื่อวัน บุตรีก็ขาดความภาคภูมิใจในตัวพ่อ คืนนั้นเขาเริ่มหมดหวังหนัก ซัดเหล้าแก้กังวลใจจนกระทั่งเมา แล้วลืมตัววาดเว็บตูนด้วยเรื่องราวอดีตสมัยมือสังหารของตนเอง ทั้งตัวหน่วยงานและแผนทำจับฆาตกรของตนเองกลายเป็นเนื้อหาในเว็บตูนไปครบ เพราะเหตุว่าคำบอกเล่าของบุตรหญิงที่ฝังใจเขา
รีวิวซีรีส์ See You in My 19th Life
ซีรีส์ประเทศเกาหลี ‘See You in My 19th Life – ชาตินี้ก็ฝากด้วยนะ’ ออนแอร์ไปแล้ว 4 ตอนใน Netflix เป็นซีรีส์แนวโรแมนติก ดรามา คอมเมดี้ และจากนั้นก็กลับชาติมาเกิดใหม่ ที่บอกเล่าเรื่องราวของคนที่จำเรื่องราวชาติก่อนของตัวเองได้เมื่อใดก็ตามกลับมาเกิด แต่ในระหว่างที่รู้สึกเพิกเฉยกับทุกสิ่งทุกอย่างคุณจะแร็ปเรื่องราวจริงๆของตัวเองเพื่อไปแข่งในรายการ Show Me The Money (รายการต่อสู้แร็ปมีชื่อของประเทศเกาหลี)
เฉยเมยกับชีวิตครั้งใหม่และได้แม้กระนั้นภาวนาให้การเกิดใหม่สิ้นสุดลงสักหนึ่งครั้ง คุณก็ได้พบกับผู้ทำให้อยากได้มีชีวิตและจำชาติโลกของตนได้อีกครั้ง เรื่องราวจะเป็นอย่างไร จะน่าสนใจแล้วก็มีคุณค่าแก่การเปิดดู Netflix ในวันหยุดไหม เรามีรีวิวซีรีส์ประเทศเกาหลี ‘See You in My 19th Life’ มาฝากแล้วดังเช่น บางคราวก็มีความเป็นผู้ใหญ่จำนวนมากประสบการณ์ชีวิต มีหวังดี แม้กระนั้นบางครั้งบางคราวก็ทำเฉยชาธุระไม่ใช่
แทคอิลไปได้งานเป็นพนักงานเดลิเวอล้น กินอยู่ที่ร้านขายของจาจังเมียนเล็กๆแห่งหนึ่งของเถ้าแก่กง (แสดงบทบาทโดย คิมจำต้องซู) ซึ่งมีผ้าพันแผลอก (เล่นบทโดย มาดงซอก) เป็นเชฟที่ดูมีปัญหาชีวิต ท่วงท่าแปลกคน ร่างล่ำ หน้าดุเด็ดเผ็ดมัน ไม่เป็นมิตร ff88bet มีความขัดแย้งกับผมทรงบ๊อบชุลมุนเป็นฮิปปี้กะเทยแหวว ถึงรูปลักษณ์รวมๆจะมองดูทราม แต่จิตใจก็จำเป็นจะต้องเบาๆทำความเข้าใจไปตามใจเรื่องราวนะ
